ภาษาจีนเปลี่ยนชีวิต “ณชา จึงกานต์กุล” จากเด็กหญิงผู้หลงรักคำว่า “ไซซ์ใหญ่กว่านี้ไหม” สู่นักธุรกิจหญิงผู้ปั้นแบรนด์ “คันนา” บุกตลาดโลก
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจระดับโลก” บางทีก็เริ่มต้นจากประโยคเล็ก ๆ แค่หนึ่งประโยคเท่านั้น… สำหรับ “ณชา จึงกานต์กุล”
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ขนมไทยเพื่อสุขภาพ KUNNA (คันนา) —จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากการได้ยินเหล่าซือพูดว่า “รองเท้าคู่นี้เล็กไป มีไซซ์ใหญ่กว่านี้ไหม”
ในรายการสอนภาษาจีนเมื่อหลายสิบปีก่อน นั่นคือวันที่เธอตกหลุมรัก “ภาษาจีน” โดยไม่รู้ตัว และขอคุณพ่อบินไปเรียนถึงแดนมังกร ทั้งที่เป็นเพียงคอร์สสั้น ๆ
แต่กลับเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเธอไปตลอดกาล
จุดเปลี่ยนจากห้องเรียนสู่โลกธุรกิจ
หลังกลับจากจีน ณชาไม่ได้มุ่งตรงสู่การทำแบรนด์ทันที แต่ใช้เวลาค้นหาตัวเอง ผ่านการทำงานในหลายสาย ตั้งแต่ช่วยธุรกิจครอบครัวด้านระบบรักษาความปลอดภัย เปิดโรงเรียนมวยไทย ไปจนถึงการทำงานกับ Microsoft เพื่อเรียนรู้ระบบบริหารขององค์กรระดับโลก
แต่สิ่งที่อยู่ในใจเสมอ คือ “อาหาร”
“เราอยู่กับอาหารทุกวัน วันละ 3 มื้อ ปีละ 365 วัน…
สำหรับคนที่ชอบความหลากหลาย การทำธุรกิจเกี่ยวกับของกินมันคือทั้งแฟชั่นและความสนุกในเวลาเดียวกัน”
เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม

80% ของเวลาที่จีนอยู่ใน “ซูเปอร์มาร์เก็ต”
ระหว่างใช้ชีวิตที่จีน เธอใช้เวลาเกือบทั้งวันเดินตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะอยากสังเกต “ตะกร้าช้อปปิ้งของผู้หญิงวัย 25–40 ปี”
หญิงวัยนี้คือผู้มีอิทธิพลสูงสุดต่อการตัดสินใจซื้อในครอบครัว — และคือ “หัวใจของตลาด”
ณชาเริ่มเห็นว่า คนจีน “เปิดกว้างและชอบลองของใหม่” โดยเฉพาะอาหารและขนมจากต่างประเทศ เธอสังเกตเห็นสินค้าจากไทยมากมายบนชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงสินค้าขั้นต้นที่ยังไม่มี “ตัวตนของแบรนด์”
“เราคิดว่า… ถ้าเราเอาวัตถุดิบไทยที่ดีอยู่แล้ว มาพัฒนาให้มีนวัตกรรมและภาพลักษณ์ที่ร่วมสมัยกว่านี้ มันน่าจะไปได้ไกล”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ “คันนา”
KUNNA: ขนมไทยที่พูดภาษาสากล
KUNNA ไม่ได้เกิดจากสูตรขนมไทยทั่วไป แต่เกิดจากแนวคิดว่า
“จะทำอย่างไรให้ผลไม้ไทยดูพรีเมียม เหมาะกับผู้บริโภคทั่วโลก”
เธอเริ่มจากวัตถุดิบไทยแท้ — มะม่วง มะพร้าว ทุเรียน หรือผลไม้เขตร้อนอื่น ๆ — แล้วแปรรูปด้วยเทคโนโลยีและไอเดียใหม่ ๆ ให้กลายเป็นของกินเล่นที่ทั้งอร่อย สุขภาพดี และยังคง “กลิ่นอายความเป็นไทย”
คันนาเริ่มต้นจากตลาดไทยก่อน เพื่อฟังเสียงผู้บริโภคจริง ๆ จากนั้นจึงขยายสู่ตลาดต่างประเทศ และประสบความสำเร็จเร็วกว่าที่คาดไว้
“เราเริ่มต้นเพื่อผู้หญิงไทย แต่สุดท้ายลูกค้ากลับขยายไปเป็นครอบครัว คู่รัก และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 80% ของลูกค้าทั้งหมด”
ขายของให้คนจีน ต้องขาย “ประสบการณ์”
แม้คันนาจะเริ่มจากไทย แต่ตลาดจีนคือเป้าหมายใหญ่ เพราะจีนคือประเทศที่เปิดรับสินค้านำเข้ามากที่สุดในเอเชีย และผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ “เรื่องราวของแบรนด์”
ณชานำแนวคิดนั้นมาใช้เต็มที่ เธอมองว่าการขายของให้คนจีนยุคนี้ ไม่ใช่แค่มีป้ายภาษาจีน แต่ต้อง “สื่อสารด้วยใจ”
“ลูกค้าจีนชอบของที่มีสตอรี่ และเขารู้ว่าของดีหน้าตาเป็นยังไง เราเลยไม่แข่งด้วยราคา แต่แข่งด้วยคุณค่าและคุณภาพที่จับต้องได้”
คันนาใช้กลยุทธ์ตลาดแบบครบทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และกิจกรรมหน้างาน เพื่อเข้าใจ insight ของผู้บริโภคจริง ๆ
คุณค่าจากความเชื่อ ไม่ใช่แค่ยอดขาย
“บางคนบอกว่าขายของให้นักท่องเที่ยวมันง่าย แค่ทำให้น่ารักก็ขายได้ แต่เราคิดว่าการสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืน ต้องมาจากศรัทธาในระยะยาว”
ณชาเชื่อว่า “แบรนด์ที่คนรัก” ต้องทำให้คนอยากกลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อโดยไม่ลังเล
สินค้าของคันนาเน้น กลูเตนฟรีและสุขภาพดี เช่น ทองม้วนแป้งมันสำปะหลัง หรือขนมเบสมะพร้าวที่ทั้งอร่อยและปลอดภัยต่อผู้แพ้อาหาร ซึ่งตรงกับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
เธอย้ำว่า “เราจะไม่สู้ด้วยราคาถูก”
เพราะตลาดเต็มไปด้วยคู่แข่งที่เลียนแบบได้ แต่ “นวัตกรรมและความใส่ใจ” คือสิ่งที่ลอกไม่ได้

จากผลไม้ไทยสู่แบรนด์ Wellness
เป้าหมายในอีก 3–5 ปีของ KUNNA คือการพัฒนาเป็น Wellness Brand เต็มตัว
ไม่ใช่แค่ของทานเล่น แต่คือส่วนหนึ่งของ “ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ” ที่รวมทั้งอาหาร การออกกำลังกาย และสิ่งแวดล้อมที่ดี
“เราจะสร้างสิ่งที่มากกว่าแบรนด์ขนม แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ส่งต่อแนวคิดเรื่องสุขภาพกายและใจ ให้ผู้คนมีชีวิตที่สมดุลในทุกวัน”
ไม่ยึดติดตลาดใดตลาดหนึ่ง
คันนาเริ่มขยายไปหลายประเทศ ทั้งจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยใช้ตลาดใกล้เคียงเป็น “สนามทดสอบสินค้าใหม่”
“เราไม่อยากพึ่งตลาดเดียว แม้จีนจะใหญ่ แต่เราต้องเรียนรู้และปรับตัวให้พร้อมสำหรับโลกทั้งใบ”
ปีหน้าคันนาวางแผนปรับมาตรฐานสินค้าให้ได้ใบรับรองสากล เพื่อบุกตลาดยุโรปอย่างเต็มตัว
บทเรียนจากเส้นทาง 14 ปี
ณชาเล่าว่า “ทุกปัญหาคือโอกาสในการเติบโต”
และหนึ่งในคำสอนที่เธอจำขึ้นใจจากคุณพ่อคือ
“อย่ากลัวปัญหา ให้กระโดดเข้าไปขยี้มันจนจม สุดท้ายมันจะเล็กลงเอง”
เพราะถ้าเราปล่อยให้ปัญหาห่างออกไป มันจะกลับมาพร้อมขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมเสมอ
“คันนา” คือความภูมิใจแบบไทยที่พูดได้ทั่วโลก
กว่า 14 ปีในตลาดโลก คันนาไม่เพียงสร้างยอดขายมหาศาล แต่ยังสร้าง “ภาพลักษณ์ใหม่ของสินค้าไทย”
จากสินค้าสามถุงร้อย สู่นวัตกรรมขนมไทยที่วางอยู่บนเชลฟ์เดียวกับแบรนด์ระดับโลก
“เราภูมิใจที่คำว่า Made in Thailand อยู่บนซองของเรา
และทำให้คนทั่วโลกเห็นว่าไทยมีของดีจริง ๆ ทั้งคุณภาพ ความใส่ใจ และเอกลักษณ์”
ในวันที่โลกหมุนเร็ว ภาษาจีนคือบันไดขั้นแรกที่พา “ณชา” ก้าวข้ามจากเด็กหญิงที่ดูรายการสอนภาษาทางทีวี
ไปสู่ “นักธุรกิจหญิงระดับโลก” ที่ใช้ทั้งภาษา ความเข้าใจผู้บริโภค และหัวใจของคนไทย
สร้างแบรนด์ที่หอมหวาน และยั่งยืนไม่ต่างจากรสชาติของขนมคันนาเอง 🍃





