1.8 ล้านล้านบาท! โอกาสใหญ่ “ของเล่นไทย” บุกตลาดจีน

โอกาสของ “ของเล่นไทย” ในตลาดจีน มูลค่าแตะ 1.8 ล้านล้านบาท

ตลาดของเล่นในประเทศจีนกำลังร้อนแรงสุดๆ เพราะนอกจากจะมีมูลค่าสูงติดอันดับโลกแล้ว ยังเป็นตลาดที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลปี 2024 ชี้ว่าตลาดของเล่นจีนมีมูลค่ากว่า 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 165,000 ล้านหยวน) และคาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้นแตะ 50.6 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033 หรือคิดเป็นกว่า 1.8 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว โดยเติบโตเฉลี่ยกว่า 8.6% ต่อปี
นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยหรู แต่คือ “โอกาสทอง” ของผู้ประกอบการไทยที่จะปักธงในตลาดใหญ่นี้ฃ
 

ผู้บริโภคจีนเน้น “คุณภาพและความพิเศษ”

ผู้ปกครองรุ่นใหม่ในจีนให้ความสำคัญกับการเลือกของเล่นที่ไม่ใช่แค่สนุก แต่ต้อง ปลอดภัย เสริมพัฒนาการ และมีดีไซน์โดดเด่น หากมองจากพฤติกรรมตลาด สินค้าไทยหลายประเภทสามารถเจาะได้ตรงจุด เช่น
  • ของเล่นเพื่อการเรียนรู้ (Educational / STEAM / Smart Toys): โตเร็วที่สุดในตลาดจีน เพราะผู้ปกครองอยากให้ลูกได้เรียนรู้ไปพร้อมกับการเล่น
  • ของเล่นต่อประกอบ (Construction & Building Sets): ถูกมองว่าเป็นของเล่นคุณภาพสูงและปลอดภัย
  • ของเล่นสะสม (Licensed / Collectibles / Blind Boxes): กำลังมาแรง โดยเฉพาะ figurines และ blind boxes ที่มีคาดการณ์โตถึง 24% ภายในปี 2026
  • ของเล่นไม้ธรรมชาติ (Eco Toys): โดนใจกลุ่มรักษ์โลก ซึ่งเป็นกระแสที่ผู้บริโภคจีนกำลังให้ความสนใจ

 

ออนไลน์คือสนามแข่งหลัก

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางหลักที่ของเล่นพรีเมียมและของสะสมเข้าไปยึดครองตลาดจีน โดยเฉพาะ 3 แพลตฟอร์มใหญ่ Tmall, JD.com และ Douyin (TikTok จีน)
  • ยอดขาย figurines โตขึ้นกว่า 34.5%
  • ยอดขาย blind boxes เพิ่มขึ้น 31.4%
  • Douyin มีบทบาทสำคัญเพราะวิดีโอสั้นและไลฟ์สดทำให้เกิดยอดขายทันที
แปลว่า ถ้า “แบรนด์ไทย” อยากบุกตลาด ต้องใช้กลยุทธ์ออนไลน์เป็นเครื่องมือหลัก
 

ด่านสำคัญ: กฎระเบียบการนำเข้า

แม้โอกาสจะมาก แต่ก็ต้องเล่นตามกติกาของจีนที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็น
  • CCC (China Compulsory Certification): การรับรองความปลอดภัยและคุณภาพ
  • GB Standards: มาตรฐานแห่งชาติครอบคลุมกลไก ความปลอดภัย การติดไฟ สารเคมี ฯลฯ
  • ฉลากภาษาจีน: ต้องระบุคำเตือนอายุ คู่มือการใช้งาน HS code และการตรวจสอบ CCCCS
ถ้าผู้ประกอบการไทยเตรียมตรงนี้ไว้ครบ ก็พร้อมลุยตลาดได้อย่างมั่นใจ
 

เทรนด์สินค้าที่น่าจับตา

ตลาดจีนไม่ได้ต้องการแค่ของเล่นเด็ก แต่ยังมีช่องว่างที่โตได้อีกหลายเซกเมนต์ เช่น
  • ของเล่นสมาร์ท (AI / AR) ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการเรียนรู้
  • ของเล่นคลาสสิก อย่างตุ๊กตาและเกมกระดาน ที่ยังคงมีแฟนเหนียวแน่น
  • ของเล่นสะสมพรีเมียม รุ่นลิมิเต็ด ที่ทำให้ตลาดผู้ใหญ่เข้ามาซื้อเอง
  • ของเล่นกลางแจ้ง เช่น จักรยานเด็กและสกูตเตอร์
  • ของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อการสะสมและความบันเทิงส่วนตัว

 

กลยุทธ์ของผู้ประกอบการไทย

ถ้าผู้ประกอบการไทยอยากปักธงในตลาดจีนที่มีการแข่งขันสูง ควรโฟกัส 4 เรื่องหลัก
  1. คุณภาพสูง + จุดขายชัดเจน: ไม่แข่งที่ราคาถูก แต่แข่งด้วยความแตกต่างและดีไซน์
  2. จับกลุ่มพรีเมียม & นักสะสมผู้ใหญ่: ตลาดนี้มีกำลังซื้อสูงและภักดีต่อแบรนด์
  3. ป้องกันการลอกเลียนแบบ: จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในจีน พร้อมใช้สติ๊กเกอร์กันปลอม/QR Code ตรวจสอบสินค้า
  4. ใช้คอนเทนต์ออนไลน์เป็นอาวุธ: ไลฟ์สด รีวิว และคลิปสั้นคือกุญแจสร้างแบรนด์ให้คนจีนรู้จัก

 

ถึงเวลา “ของเล่นไทย” เล่นใหญ่ในจีน

ตลาดของเล่นจีนไม่ได้เป็นแค่สนามเด็กเล่น แต่คือ “สนามธุรกิจ” ที่มีมูลค่านับล้านล้านบาทต่อปี ผู้บริโภคจีนกำลังมองหาสินค้าพรีเมียม ปลอดภัย และมีดีไซน์ที่แตกต่าง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ “ของเล่นไทย” สามารถใช้คุณภาพและความคิดสร้างสรรค์เข้ามาเจาะตลาด
 
ใครที่มองไกลและปรับตัวทัน จะไม่ใช่แค่ผู้ส่งออก แต่คือ ผู้เล่นรายใหญ่ที่ปักธงแบรนด์ไทยในจีนได้สำเร็จ

อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution
#บุกตลาดจีน #ตลาดจีน

Share with your network!
Facebook
Threads
X
LinkedIn