เปิด 5 กระแสหลักที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้! จับทางเศรษฐกิจดิจิทัล-สุขภาพจีนยุคใหม่
จีนกำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ” ที่เทคโนโลยี นวัตกรรม และพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศ แม้เศรษฐกิจโลกผันผวน แต่จีนยังคงยืนหนึ่งในฐานะ ตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดในเอเชีย
ในปี 2025 “โอกาสทองของผู้ประกอบการไทย” กำลังเปิดกว้างกว่าที่เคย โดยเฉพาะใน 5 กระแสสำคัญที่สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ ใครเข้าใจก่อน ย่อมคว้าโอกาสได้ก่อน!
1. “เศรษฐกิจเชิงประสบการณ์” จากช้อปปิง สู่แลนด์มาร์กแห่งความรู้สึก
ผู้บริโภคจีนยุคใหม่ไม่ได้ต้องการ “สินค้า” เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการ “ประสบการณ์” ที่สร้างความรู้สึกเฉพาะตัว
จากการจัดแสดงแฟชั่น–ศิลปะสุดล้ำอย่าง LV Giant Boat ที่เซี่ยงไฮ้ จนถึงคาเฟ่คอนเซ็ปต์แนว immersive ที่ใช้เทคโนโลยี AR/VR สร้างบรรยากาศเสมือนจริง — นี่คือรูปแบบ “Experience Economy” ที่กำลังขยายตัวในเมืองหลักของจีน
สำหรับแบรนด์ไทย นี่คือโอกาสทองในการยกระดับ “สินค้าธรรมดา” ให้กลายเป็น “ประสบการณ์พิเศษ” เช่น
- ร้านอาหารไทยที่เล่าเรื่องผ่านกลิ่น เสียง หรือการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย
- สปาไทยที่ผสานศาสตร์นวดโบราณกับเทคโนโลยี relaxation tech
ยุคนี้ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขายความรู้สึกที่คนจีนอยากจดจำ
2. “ดิจิทัลลิฟต์อัป” – โลกออนไลน์จีนคือตลาดใหม่ของผู้ประกอบการไทย
กว่า 80% ของผู้บริโภคจีนใช้สมาร์ตโฟนซื้อสินค้าแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ประจำวันไปจนถึงบริการสุขภาพ
ภายใต้นโยบาย “เศรษฐกิจดิจิทัล 2025” จีนเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่าง 5G, AI และ IoT ทั่วประเทศ ทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นี่คือโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่พร้อมเจาะตลาดผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น
- Xiaohongshu (RED) แพลตฟอร์มรีวิวสินค้าและไลฟ์สไตล์ที่ครองใจสาวจีน
- Douyin / TikTok China ที่กำลังเป็นตลาดโฆษณาใหม่มาแรง
- WeChat Mini Program สำหรับร้านค้าดิจิทัลขนาดเล็กที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคตรง
ใครใช้ “คอนเทนต์ + ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” ได้ถูกจังหวะ มีโอกาสปั้นแบรนด์ไทยให้ดังได้ในชั่วข้ามคืน

3. “สุขภาพคือความหรูหราใหม่” – ตลาดสินค้าสุขภาพโตไม่หยุด
ในยุคที่คนจีนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากกว่าทรัพย์สิน “การบริโภคเพื่อสุขภาพ” กลายเป็นเทรนด์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน
ตั้งแต่สินค้าออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไปจนถึง wellness tourism และสปาระดับพรีเมียม
ผู้บริโภคจีนมองว่า “สุขภาพดีคือการลงทุนในชีวิต” — และนั่นทำให้สินค้าไทยที่มีจุดขายด้านธรรมชาติ ความปลอดภัย และสมุนไพรพื้นบ้าน กลายเป็นที่ต้องการสูง
เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องดื่มดีท็อกซ์ หรือบริการสุขภาพแนวไทยอย่างการนวดแผนไทยและสปา
ตลาดสุขภาพจีนไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่กำลัง “หรูขึ้น” — ใครจับตลาดพรีเมียมได้ก่อน จะกลายเป็นผู้นำ
4. “ชนบทจีนฟื้นคืนชีพ” – ตลาดใหม่ที่ผู้ประกอบการไทยมองข้ามไม่ได้
ภายใต้นโยบาย “Rural Revitalization” ของรัฐบาลจีน ชนบทกำลังกลายเป็นตลาดเกิดใหม่ขนาดมหึมา
รายได้เฉลี่ยของคนในพื้นที่อย่าง ยูนนาน เสฉวน และกุ้ยโจว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อขยายตัว ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารแปรรูป และสินค้าสุขภาพ
สำหรับธุรกิจไทย นี่คือโอกาสทองในการบุกตลาด “เมืองรอง” ที่ยังมีการแข่งขันต่ำ เช่น
- สินค้าเกษตรไทยคุณภาพสูง
- ผลไม้แปรรูป–ของกินเล่นเพื่อสุขภาพ
- บริการโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซข้ามแดน
ตลาดจีนไม่ได้มีแค่ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ เมืองรองคือเหมืองทองแห่งใหม่ของผู้ประกอบการไทย
5. “AI + ข้อมูล” พลิกเกมธุรกิจยุคใหม่
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล “ข้อมูลคือทรัพยากรที่มีค่ามากกว่าน้ำมัน”
จีนใช้ Big Data และ AI วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ ทำให้แบรนด์สามารถรู้ได้ว่า ลูกค้าคนนี้ชอบกินอะไร ซื้อเมื่อไร หรือชอบคอนเทนต์แบบไหน
สำหรับผู้ประกอบการไทย การเรียนรู้วิธีใช้ข้อมูลแบบจีน คือกุญแจสำคัญในการขยายตลาด เช่น
- วิเคราะห์ข้อมูลเทรนด์สินค้าบน RED หรือ Weibo เพื่อหา insight ผู้บริโภค
- ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติของ AI ทำคอนเทนต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมจีน
ในโลกที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ใครเข้าใจ “พฤติกรรมผู้บริโภคจีน” ได้ก่อน คนนั้นชนะ

โอกาสทองของไทยในตลาดจีนยุคใหม่
5 เทรนด์นี้คือ “เข็มทิศเศรษฐกิจจีนยุคดิจิทัล” ที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัว
จากเศรษฐกิจประสบการณ์ สู่สุขภาพและดิจิทัล–ข้อมูล ทั้งหมดล้วนเปิดประตูให้ธุรกิจไทยเข้าใกล้ผู้บริโภคจีนได้ง่ายขึ้น
จีนไม่ใช่ตลาดที่ยาก แต่ต้องเข้าใจ “จังหวะของคนจีน”
และเมื่อเข้าใจแล้ว… นี่คือโอกาสในการสร้างแบรนด์ไทยให้ยืนในตลาดโลกอย่างแท้จริง





