BB Herb พลังสมุนไพรไทย “ยาดมสีชมพู” บุกจีนแตกแรง! ออเดอร์แรกทะลุแสนกระปุก
ใครจะเชื่อว่า “ยาดมสมุนไพรไทย” จะไปดังถึงเมืองจีนแต่วันนี้ BB Herb แบรนด์ของคนไทยแท้ ๆ ทำได้แล้ว!กับยอดออเดอร์ล็อตแรก 100,000 กระปุก จากตลาดจีนและยังตั้งเป้าโตต่อไม่หยุดที่ 200,000 กระปุกต่อเดือน นี่คืออีกหนึ่ง “เรื่องจริงของ SME ไทย”ที่พิสูจน์ว่า ถ้าสินค้ามีคุณภาพ และเดินเกมถูกทาง ก็สามารถยืนหยัดบนเวทีต่างประเทศได้อย่างสง่างาม
จากที่ปรึกษาโรงงานสมุนไพร… สู่เจ้าของแบรนด์ “BB Herb”
“นิจวรรณ ผลงาม” คือหญิงไทยผู้ยืนหยัดในเส้นทางสมุนไพร เธอเริ่มจากการเป็นที่ปรึกษาให้โรงงานผลิตสมุนไพรตั้งแต่ปี 2556ก่อนจะเปิดบริษัทของตัวเองในปี 2558 โดยขายสินค้าสมุนไพรจากกว่า 30 แบรนด์ รวมกว่า 100 รายการสินค้าลูกค้าหลักของเธอคือ “นักท่องเที่ยวจีน” ที่มาเที่ยวไทย เพราะรู้ว่าชาวจีนหลงใหลในเสน่ห์ของ “สมุนไพรไทย”ทั้งคุณภาพดี ราคาไม่แพง และมีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งที่ “บ้านเขาไม่มี” แต่ “ไทยมี” อย่างแท้จริง

ยาดมสีชมพู ที่ไม่เหมือนใคร
หลังโควิด ยาดมกลายเป็นสินค้าฮอต นิจวรรณจึงเริ่มคิดสร้างแบรนด์ของตัวเองในชื่อ BB Herb แต่เธอไม่อยากให้มันเป็นแค่ “ยาดมธรรมดา” เธอตั้งโจทย์ว่า “ต้องทันสมัย ไม่โบราณ”จึงเลือกใช้ขวดใส เห็นสมุนไพรชิ้น ๆ ข้างในและออกแบบให้มี “สีชมพูสดใส” ดูสนุก ดูมีชีวิต ส่วนผสมก็ไม่ธรรมดาครบทั้ง การบูร, กะวาน, ดอกจันทน์, พิมเสน, สมุนแว้ง, พริกไทยดำกลิ่นหอมสมุนไพรไทยแท้ แต่ดีไซน์เหมือนเครื่องสำอางระดับพรีเมียมแต่เส้นทางไม่ง่ายเลย…เพราะต้องใช้เวลากว่า 2 ปี ในการพัฒนาสูตรปัญหาใหญ่คือ “เชื้อรา” ในตัวสมุนไพร จนต้องใช้นวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วย เพื่อรักษาความสดและความสะอาดของสมุนไพรให้อยู่ได้นาน
รุกตลาดจีนอย่างถูกกฎหมาย คือ “หัวใจสำคัญ”
เธอเล่าว่า “อยากขายของที่จีน ต้องเริ่มจากกฎหมายก่อน”BB Herb ใช้เวลาเตรียมตัวกว่า 2 ปีเต็ม เพื่อให้เข้าไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย
3 กฎเหล็กที่เธอย้ำกับผู้ประกอบการทุกคนคือ
3.1จดลิขสิทธิ์ในจีนก่อน อย่าพาไปโชว์ในงานแสดงสินค้าก่อนจด เพราะอาจถูกลอกทันที
3.2ทำมาตรฐานให้ผ่านกฎหมายจีน ทั้งสูตร ส่วนผสม และการตรวจศุลกากร
3.3รู้จักตลาดให้ดี — เมืองไหนชอบอะไร ต้องรู้ให้ละเอียด
อย่างในกรณีของ BB Herbเธอเลือก “กว่างโจว” เป็นเมืองนำร่อง แทนที่จะไป “เซี่ยงไฮ้” เพราะกว่างโจวเป็นเมืองท่าที่ค้าส่งใหญ่สุด และคนยังนิยมสินค้าสมุนไพรไทย

ยอดแรกทะลุแสนกระปุก!
เมื่อทุกอย่างพร้อม ล็อตแรกที่ส่งไปจีนคือ 100,000 กระปุกและได้วางขายในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกว่างโจวราคาขายปลีกอยู่ที่ 100 หยวน / 3 กระปุก (ประมาณ 500 บาท)ชาวจีนให้การตอบรับดีเกินคาดเพราะ “กลิ่นไทยแท้” ผสานกับ “แพ็กเกจจิ้งทันสมัย”กลายเป็นสินค้าพรีเมียมที่คนจีนมองว่า “สวย ใช้ดี และมีเอกลักษณ์”
ได้มาตรฐาน GMP ส่งออกได้ทั่วโลก
เบื้องหลังความสำเร็จของ BB Herb ไม่ใช่แค่ดีไซน์หรือกลยุทธ์แต่คือ มาตรฐานการผลิตระดับ GMP (Good Manufacturing Practice)ที่ควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงบรรจุภัณฑ์มาตรฐานนี้ทำให้ BB Herb สามารถส่งออกได้ทั่วโลกและปรับสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานของแต่ละประเทศได้ไม่ยาก
ได้แรงหนุนจาก SME D Bank เสริมความรู้ เสริมทุน เสริมโอกาส
SME D Bank มีบทบาทสำคัญกับการเติบโตของ BB Herbโดยเฉพาะเรื่อง “ความรู้ทางการเงิน” และ “การประชาสัมพันธ์”ทั้งช่วยให้เธอเข้าใจระบบภาษี การจัดการเงินกู้ในนามบริษัทและยังพาแบรนด์ไลฟ์สดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์อีกด้วยเธอบอกว่า “การอบรมครั้งนั้นช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้เดือนละแสนกว่าบาทเลย”
เป้าหมายต่อไป: 200,000 กระปุกต่อเดือน และขยายสู่ “เครื่องสำอางสมุนไพร”
ในอนาคต BB Herb ไม่หยุดแค่ “ยาดม” แต่เตรียมแตกไลน์สู่สินค้าใหม่ เช่น
- เครื่องสำอางสมุนไพร (ลิปสติก ครีม)
- อาหารเพื่อสุขภาพ
พร้อมขยายตลาดไปพม่า ซึ่งลูกค้าชาวพม่าก็เริ่มนิยม BB Herb มากขึ้นเรื่อย ๆ
BB Herb คือ “ตัวอย่างของแบรนด์ไทยที่ไม่ยอมแพ้”
จาก SME ตัวเล็ก ๆ สู่แบรนด์ไทยที่โกอินเตอร์ได้จริงBB Herb คือคำตอบของคำว่า
“สินค้าดีจริง วางแผนดีจริง ก็ไปถึงจีนได้จริง”
ยาดมสีชมพูนี้ไม่ใช่แค่ของฝากจากไทย
แต่มันคือ “กลิ่นของความภูมิใจ” ที่หอมไปไกลถึงแดนมังกร





