ผลไม้ไทยบุกจีนเหนือ “คุณภาพคือหัวใจ” เกษตรไทยลุยตลาดค้าส่งยักษ์ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือจีน
ในขณะที่ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวไทยยังคงครองใจผู้บริโภคจีนทั่วประเทศ ล่าสุด “ตลาดเกษตรภาคเหนือ” ของจีนกำลังเปิดประตูต้อนรับสินค้าเกษตรไทยอย่างจริงจัง พร้อมวางประเทศไทยเป็น “ซัพพลายเออร์ระดับพรีเมียม” ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความปลอดภัยในสายตาชาวจีน
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง ตลาดเกาเปยเตี้ยน (Gaobeidian Market) มณฑลเหอเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือแนวทางขยายตลาดผลไม้ไทยในจีนตอนเหนือ ภายใต้แนวคิดที่ชัดเจนว่า
“คุณภาพคือหัวใจของสินค้าเกษตรไทย”
“เกาเปยเตี้ยน” ตลาดยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาค ประตูสู่จีนเหนือที่ไทยต้องเข้าให้ได้
ตลาดเกาเปยเตี้ยนถือเป็น ศูนย์กลางกระจายสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดในจีนเหนือ บริหารโดย กลุ่ม Sunhula Group มีพื้นที่กว่า 24,000 ไร่ และเป็นจุดเชื่อมโยงโลจิสติกส์หลักของ 5 มณฑลตอนเหนือของจีน
ระบบบริหารจัดการของตลาดแห่งนี้ถือว่าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน
- ใช้ ระบบควบคุมอัจฉริยะ Real-Time เพื่อติดตามข้อมูลสินค้าเข้าออก
- รู้ทันทีว่าสินค้าชนิดใด ปริมาณเท่าไร มาจากที่ไหน และราคาปัจจุบันเป็นเท่าไร
- มีระบบ ห่วงโซ่ความเย็นอัจฉริยะ (Cold Chain Logistics) ช่วยให้ผลไม้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากไทย ถูกขนส่งไปยังผู้บริโภคได้รวดเร็วโดยไม่เสียคุณภาพ
ในปี 2024 ตลาดนี้มีปริมาณนำเข้าผักและผลไม้รวมกว่า 1,910 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.41 ล้านล้านหยวน — และ “ทุเรียนไทย” ยังคงเป็นสินค้าดาวเด่นอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคจีนยอมจ่ายในราคาสูงถึง 400 หยวนต่อกิโลกรัม
ผลไม้ไทยมาแรง จากทุเรียนถึงมะพร้าว สร้างชื่อในตลาดระดับพรีเมียม
การเยี่ยมชมครั้งนี้ ปลัดเกษตรฯ พร้อมคณะได้เข้าเยี่ยมบูธสินค้าเกษตรไทยในตลาด ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย มะพร้าว และกุ้งปรุงสุกแช่แข็งจากสงขลา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้นำเข้าในพื้นที่
ผู้นำเข้ารายใหญ่ของจีนเผยว่า
“สินค้าจากไทยมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ชัดเจนว่าผู้บริโภคจีนจำได้ทันทีว่า ‘นี่คือของไทย’”
พวกเขายังย้ำว่า หากไทยคงมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง สินค้าเกษตรไทยจะมีศักยภาพขึ้นแท่น “สินค้าหลักประจำซุปเปอร์มาร์เก็ตในจีนเหนือ” ได้แน่นอน
ไทยพร้อมลุย จากมาตรฐานการผลิตถึงห่วงโซ่อุปทานที่เข้มงวด
กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องมาตรฐาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น
- การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิต
- การตรวจคุณภาพก่อนส่งออก
- ระบบควบคุมความปลอดภัยอาหาร (Food Safety)
- และคณะทำงานเฉพาะกิจในการกำกับดูแลคุณภาพสินค้าเกษตรส่งออก
ทั้งหมดนี้คือ “รากฐานความเชื่อมั่น” ที่ทำให้ผลไม้ไทยสามารถขยายตลาดในจีนได้อย่างมั่นคง
ทำไม “จีนเหนือ” ถึงเป็นเป้าหมายใหม่ของเกษตรไทย?
ที่ผ่านมา การส่งออกผลไม้ไทยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ที่มณฑลกวางสี และยูนนาน ทางตอนใต้ของจีน
แต่ปัจจุบัน จีนเหนือ กลายเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เพราะ
- ฐานประชากรขนาดใหญ่ (กว่า 200 ล้านคน)
- รายได้เฉลี่ยสูงขึ้น
- ผู้บริโภคเริ่มหันมาบริโภคผลไม้ต่างประเทศมากขึ้น
- และระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัยสามารถกระจายสินค้าจากไทยได้ทั่วภาค
การที่ไทยเข้าไปวางรากฐานในตลาดเกาเปยเตี้ยน จึงเท่ากับเปิด “ประตูเศรษฐกิจผลไม้ไทย” สู่จีนเหนืออย่างเต็มรูปแบบ
“คุณภาพคือหัวใจ” คำยืนยันจากไทยถึงจีน
นายวิณะโรจน์กล่าวชัดเจนว่า ไทยจะไม่แข่งด้วย “ราคา” แต่แข่งด้วย “คุณภาพและมาตรฐาน”
“เราพร้อมเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง ที่ปลอดภัย มีรสชาติโดดเด่น และตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนในทุกมิติ”
ขณะที่ภาคเอกชนจีนเองก็พร้อมร่วมมือกับไทยในระยะยาว โดยวางแผนขยายตลาดไปยังเมืองรองทั่วจีน และเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากไทยต่อเนื่อง
จากสวนผลไม้ไทย สู่โต๊ะอาหารจีน
การเดินหน้าครั้งนี้ของกระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่เพียงการขายผลไม้ แต่คือการ “สร้างภาพลักษณ์ใหม่” ของสินค้าเกษตรไทยในสายตาจีน ว่าคือสินค้าที่มีคุณภาพระดับโลก
และในอนาคตอันใกล้ เมื่อระบบโลจิสติกส์ การตลาด และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ–เอกชนไทยจีนพัฒนาไปพร้อมกัน
ประเทศไทยอาจกลายเป็น “ซัพพลายเออร์หลักของผลไม้พรีเมียม” สำหรับผู้บริโภคจีนทั้งประเทศ
การยืนยันว่า “คุณภาพคือหัวใจ” ไม่ได้เป็นแค่คำพูดทางการทูต
แต่คือ “จุดขาย” ที่จะพาเกษตรไทยบุกตลาดจีนเหนือได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
