ศุภจีเดินหน้า Quick Big Win ปลุกพาณิชย์ไทยสู่ยุคใหม่

ศุภจี เดินหน้า “Quick Big Win” 7 นโยบายพาณิชย์

เร่งฟื้นเศรษฐกิจ–ปักหมุดการค้าใหม่–หนุนเกษตรกร-SME ด้วยเทคโนโลยีและความร่วมมือ
หลังเข้ารับตำแหน่งไม่นาน ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศนโยบายเร่งด่วน 7 ด้าน ภายใต้แนวคิด “Quick Big Win” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เห็นผลจริงในระยะสั้น พร้อมวางรากฐานการค้า การส่งออก และศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้ยั่งยืนในระยะยาว
“เป้าหมายของเราชัดเจน คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ ช่วยผู้ประกอบการและประชาชนเห็นผลในเวลาไม่นาน”
ศุภจี สุธรรมพันธุ์

1. เจรจาการค้า-ลดภาษีทรัมป์-แก้ปัญหาสินค้าทุ่มตลาด

เริ่มต้นจากเรื่องใหญ่ระดับโลก กระทรวงพาณิชย์เร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อแก้ภาษีทรัมป์ที่กระทบสินค้าส่งออกของไทย ซึ่งขณะนี้สามารถต่อรองลดภาษีเหลือ 19% และอยู่ระหว่างเคลียร์รายละเอียดถิ่นกำเนิดสินค้าและมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (AD)
พร้อมทั้งยกระดับระบบออกใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (CO) ให้อยู่ภายใต้การตรวจสอบของกระทรวงโดยตรง ป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร และนำเทคโนโลยีมาช่วยคำนวณข้อมูลเพื่อลดขั้นตอนการยื่นคำร้องจาก 3 เดือนเหลือเพียง 1 เดือน
 

2. ฟื้นการค้าชายแดน-ช่วยเกษตรกรและผู้ประกอบการ

อีกจุดที่เร่งด่วนคือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งจากต้นทุนและข้อจำกัดด้านการขนส่ง
กระทรวงพาณิชย์เตรียมลงพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน เพื่อดูแล
  • ประชาชน ผ่านกิจกรรม “ธงฟ้า ลดค่าครองชีพ
  • เกษตรกร ที่มีสินค้าข้ามแดนไม่ได้ จะมีการหาตลาดใหม่และจัด “มหกรรมชายแดน” เพื่อกระจายสินค้า
  • ผู้ประกอบการ ส่งเสริมการตลาดข้ามแดน–สร้างโอกาสส่งออกใหม่

 

3. FTA และการบุกตลาดใหม่

“เปิดประตูการค้าไทยสู่โลก” คืออีกภารกิจสำคัญ
ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับ ครอบคลุม 18 ประเทศ และเพิ่งลงนาม FTA กับกลุ่ม EFTA (สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์) ซึ่งเป็นการเจรจาครั้งแรกกับยุโรป และตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 38%
ต่อจากนี้คือเป้าหมายใหญ่  FTA กับ EU และเกาหลีใต้
พร้อมผลักดันให้เอกชนใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ให้เต็มที่
นอกจากนี้ยังบุกตลาดใหม่ เช่น
ตะวันออกกลาง (ซาอุฯ, UAE)
แอฟริกาใต้
เอเชียใต้ (อินเดีย)
อาเซียน (เวียดนาม)
รวมถึงจัดคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาโดยตรงกับผู้นำเข้าระดับโลก
 

4. ลดค่าครองชีพ ราคายาโปร่งใส

เพื่อลดภาระชีวิตคนไทย กระทรวงพาณิชย์เตรียมมาตรการชุดใหญ่:
  • มหกรรมธงฟ้า ช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน
  • ดีลใหญ่กับโรงพยาบาลเอกชน 110 แห่ง (จากทั้งหมด 330 แห่งทั่วประเทศ) เพื่อให้ผู้ป่วย “รู้ราคายาก่อนจ่ายเงิน” และสามารถเลือกซื้อยานอกโรงพยาบาลได้
  • คาดว่ามาตรการนี้จะช่วยลดค่าครองชีพ กว่า 32,400 ล้านบาท
  • รวมถึงควบคุมราคาสินค้าเวชภัณฑ์ เช่น ถุงมือยาง สำลี ATK อีกกว่า 1,100 ล้านบาท

5. ดูแลสินค้าเกษตร ข้าว ผลไม้ มันสำปะหลัง ปาล์ม

หนึ่งในหัวใจของนโยบาย “Quick Big Win” คือ เสถียรภาพสินค้าเกษตร
กระทรวงพาณิชย์ใช้กลยุทธ์ “5 หลักจัดการเกษตร” ได้แก่
1.ประเมินอุปสงค์–อุปทานล่วงหน้า
2.บริหารจัดการผลผลิต
3.ผลักดันส่งออก
4.ควบคุมการนำเข้า
5.พัฒนาพันธุ์และมูลค่าเพิ่มระยะยาว
โดยเฉพาะสินค้าหลักอย่าง
  • ข้าว: เร่งส่งออก จัดสินเชื่อชะลอการขายกว่า 3 ล้านตัน
  • ข้าวโพด: คุมการนำเข้า ลด PM2.5
  • มันสำปะหลัง: ส่งเสริมท่อนพันธุ์ต้านโรค
  • ปาล์มน้ำมัน: กำหนดราคารับซื้อให้เป็นธรรม
  • ผลไม้และพืชหัว: ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และจัดรณรงค์บริโภคทั่วประเทศ
พร้อมเจรจา G2G กับจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เพื่อขยายตลาดข้าว รวมถึงเปิดตลาดใหม่ในซาอุดีอาระเบีย ฮ่องกง และยุโรป
 

6. เสริมแกร่ง SME ไทย ดันสู่ตลาดโลก

กลุ่ม SME ไทย คือฟันเฟืองหลักที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ
ศุภจีประกาศเดินหน้า 6 มิติ ได้แก่
  • ขยายตลาดใหม่ (อินเดีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา)
  • ยกระดับศักยภาพผ่าน คอนเทนต์ออนไลน์และ Data Analytics
  • เปิดช่องทางอีคอมเมิร์ซในและต่างประเทศ
  • เพิ่มมูลค่าสินค้าไทย ด้วยมาตรฐาน GI, Thai SELECT, Thailand Trust Mark
  • ร่วมมือสถาบันการเงิน ให้ SME เข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น
  • ปรับแพลตฟอร์มบริการของกระทรวงให้ง่ายและเข้าถึงได้จริง

 

7. ปลดล็อกประเทศ ใช้เทคโนโลยีหนุนเศรษฐกิจ

กระทรวงพาณิชย์เตรียม “รื้อระบบเก่า” ด้วยสองกลยุทธ์สำคัญ
ปรับกฎหมาย กฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชน
ใช้เทคโนโลยีและ AI เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการรัฐ เช่น
  • ลดเวลาการพิจารณาคดี AD/CVD จาก 12 เหลือ 9 เดือน
  • วิเคราะห์ข้อมูลตลาดอีคอมเมิร์ซ
  • ปราบปรามธุรกิจนอมินี
  • สร้าง “รัฐบาลดิจิทัล” เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อประโยชน์ภาคเอกชน

 

“Quick Big Win” เพื่อเศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้จริง

ศุภจีปิดท้ายว่า นโยบายทั้ง 7 ข้อนี้ไม่ใช่เพียงแผนระยะสั้น แต่คือการ “ลงมือทำให้เห็นผลจริง” ทั้งในมิติของประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกไทย
“เราต้องการให้ประชาชนเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ใน 4 เดือน และสร้างรากฐานใหม่ให้เศรษฐกิจไทยยืนได้อย่างยั่งยืน”

อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution
#บุกตลาดจีน #ตลาดจีน

Share with your network!
Facebook
Threads
X
LinkedIn