อยากบุกตลาดจีน? ต้องเข้าใจโลกโซเชียลของเค้าก่อน!
ถ้าพูดถึงโซเชียลมีเดียในไทย เราคงนึกถึง Facebook, IG, TikTok หรือ X กันใช่ไหม? แต่รู้หรือไม่ว่าที่จีน…แอปเหล่านี้แทบไม่มีใครใช้! เพราะพวกเขามีจักรวาลโซเชียลเป็นของตัวเอง ทั้ง WeChat, Weibo, Xiaohongshu (RED), และ Douyin ที่มีผู้ใช้งานรวมกันมากกว่าพันล้านคน!
ตลาดจีนคือโอกาสมหาศาล ไม่ว่าจะทำการตลาด ขายของ สร้างแบรนด์ หรือเป็นครีเอเตอร์ แต่การจะเข้าไปยืนในจักรวาลนี้ได้ “แค่กดสมัคร” เหมือน Facebook นั้น…บอกเลยว่าไม่ง่าย! เพราะมีกฎระเบียบและขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าที่เราคุ้นเคยมาก
ทำไมการเปิดบัญชีโซเชียลจีนถึงไม่ง่ายเหมือนที่อื่น?
แม้จะเป็นตลาดที่หอมหวานและเต็มไปด้วยโอกาส แต่การเปิดบัญชี โดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ กลับมีด่านที่ต้องผ่านไปไม่น้อยเลย
1. กฎหมายไซเบอร์ที่เข้มงวดสุดๆ
จีนมีกฎหมายความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Law) ที่บังคับให้ทุกบัญชีต้อง “ยืนยันตัวตนได้จริง” เท่านั้น นี่หมายความว่า:
ห้ามใช้ข้อมูลปลอม: ทุกข้อมูลที่ใช้สมัครต้องตรวจสอบได้
ต้องยืนยันตัวตน: บัญชีที่ไม่ผ่านการยืนยัน จะถูกจำกัดการใช้งาน เช่น โพสต์ไม่ได้ หรือไลฟ์สดไม่ได้
ข้อมูลถูกตรวจสอบได้: แพลตฟอร์มพร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐได้ทุกเมื่อหากมีการร้องขอ
ด้วยเหตุนี้ ขั้นตอนการสมัครจึงต้องละเอียดและใช้เวลามากกว่าที่เคยพบเจอ
2. ระบบยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลจริง (Real-name Verification)
นี่คือด่านสำคัญที่สุด! แพลตฟอร์มจีนเกือบทั้งหมดบังคับใช้ระบบนี้ ซึ่งต้องใช้เอกสารจริงเท่านั้น:
คนจีน: ใช้บัตรประชาชนจีน
ชาวต่างชาติ: ใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) ที่ยังไม่หมดอายุ
บางแอปอาจล้ำไปอีกขั้น โดยให้ สแกนใบหน้า (Face Recognition) เพื่อเทียบกับรูปในเอกสาร หรือต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ที่จดทะเบียนด้วยชื่อเดียวกัน
3. แต่ละแอป…กฎไม่เหมือนกัน!
ความซับซ้อนยังไม่จบแค่นั้น เพราะแต่ละแพลตฟอร์มก็มีกฎเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปอีก เช่น:
WeChat Official Account: บัญชีธุรกิจต้องใช้เอกสารบริษัทที่จดทะเบียนในจีน หรือในประเทศที่ระบบรองรับเท่านั้น
Weibo: บัญชีส่วนตัวใช้พาสปอร์ตสมัครได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นบัญชีธุรกิจ ต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
Xiaohongshu: บัญชีแบรนด์ (Brand Account) จะเปิดได้เฉพาะบริษัทที่มีเครื่องหมายการค้า (Trademark) จดทะเบียนแล้ว
Douyin: สำหรับชาวต่างชาติ การเปิดบัญชีทางการมักจะต้องทำผ่าน Partner หรือเอเจนซี่ที่ได้รับสิทธิ์เท่านั้น
ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้การจะลุยทุกแพลตฟอร์ม ต้องเตรียมเอกสารและทำความเข้าใจขั้นตอนแยกกันทั้งหมด
4. กำแพงภาษาและระบบหลังบ้าน
อุปสรรคสุดท้ายที่หลายคนเจอคือ “ภาษา” เพราะหน้าสมัครและขั้นตอนการยืนยันตัวตนทั้งหมดเป็น ภาษาจีน! ทำให้เกิดปัญหาได้ง่ายๆ เช่น:
กรอกข้อมูลผิดเพราะอ่านไม่ออก
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสมัครไม่ผ่าน
ติดต่อทีมช่วยเหลือ (Customer Support) ก็ต้องสื่อสารเป็นภาษาจีน
ดังนั้น หากไม่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือไม่มีผู้ที่เชี่ยวชาญคอยแนะนำ อาจต้องลองผิดลองถูกกันหลายรอบเลยทีเดียว
เห็นไหมว่าการเปิดประตูสู่ตลาดจีนนั้นมีรายละเอียดซ่อนอยู่ไม่น้อยเลย… งั้นเรามาเจาะลึกกันดีกว่า ว่าแต่ละแอปมีขั้นตอนการเปิดบัญชีอย่างไรบ้าง? ติดตามโพสต์ต่อไปได้เลย!
