
มิสทิน บุกตลาดจีน! แบรนด์ไทยรายได้ทะลุหมื่นล้าน กับแผนสู่ Regional Brand
ในสมรภูมิสินค้าความงามมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทของไทย ที่มีทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลกแข่งขันกันดุเดือด “มิสทิน” คือหนึ่งในแบรนด์ไทยที่ไม่เพียงยืนหยัดอยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน แต่ยังมุ่งเป้าไปไกลกว่านั้น กับเป้าหมายสู่การเป็น Regional Brand ที่ครองใจผู้บริโภคในหลายประเทศ โดยเฉพาะจีน
คุณดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์มิสทิน เผยว่า กระแส Soft Power ของไทย บวกกับภาพลักษณ์สินค้า T-Beauty และความนิยมในสินค้า Made in Thailand คือโอกาสสำคัญที่แบรนด์ไทยจะได้แจ้งเกิดในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งมิสทินบุกเข้าไปทำตลาดมานานกว่า 8 ปี และสามารถสร้างยอดขายได้ทะลุหลักหมื่นล้านบาท
หมัดเด็ดสู่ความสำเร็จ: ครีมกันแดดเบอร์หนึ่งในจีน
หนึ่งในสินค้าชูโรงที่ทำให้มิสทินติดตลาดจีนคือ “ครีมกันแดด” ซึ่งขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในจีนติดต่อกัน 2 ปี เอาชนะคู่แข่งระดับโลกไปได้แบบเหนือความคาดหมาย ยอดขายรวมจากจีนในปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วกว่า 30% ขณะที่ยอดขายรวมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท โดยตลาดไทยและประเทศอื่น ๆ ทำรายได้รวมประมาณ 4,000 ล้านบาท
เจาะจีนไม่ง่าย แต่ยั่งยืน
แม้จีนจะเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่าไทยถึง 20 เท่า แต่การเจาะตลาดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มิสทินต้องลงทุนมหาศาลในการสร้างแบรนด์ พร้อมรับมือกับอุปสรรคทางการค้าหลายด้าน เช่น การถูกโจมตีด้วยข่าวปลอมเกี่ยวกับคุณภาพสินค้า ซึ่งเป็นภัยเงียบที่ยากจะตรวจสอบต้นตอ ทำให้แบรนด์ต้องเร่งสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ทำให้มิสทินแตกต่างจากแบรนด์อื่น คือความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคจีน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ สมุนไพรไทย และออร์แกนิก เช่น มะกรูด มะพร้าว และตะไคร้ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคจีนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัย
แผนลุยครึ่งปีหลัง: มองโลกอย่างระวัง
แม้มิสทินจะมีแผนขยายตลาดต่อเนื่อง เช่น รัสเซีย ตะวันออกกลาง ปากีสถาน กัมพูชา แต่หลายแผนต้องชะลอหรือปรับเปลี่ยนจากสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน ทั้งสงครามในยูเครน ความไม่สงบในตะวันออกกลาง และการแข็งค่าของเงินบาทที่กระทบต้นทุนและความเชื่อมั่นของคู่ค้า
เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ บริษัทได้จัดเตรียม Business Continuity Plan โดยผนึกกับคู่ค้าในการสต็อกสินค้าไว้ล่วงหน้าถึง 6 เดือน เพื่อรองรับดีมานด์จากลูกค้าในแต่ละประเทศ เช่น ปากีสถาน สร้างยอดขายราว 100 ล้านบาท ขณะที่กัมพูชา ทำรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท
มิสทินในยุคใหม่ = แบรนด์ไทยระดับภูมิภาค
มิสทินแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของแบรนด์ไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะจีน ไม่ได้เป็นเพียงความฝัน หากมีการวางแผน ลงทุน และเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง พร้อมยึดมั่นในคุณภาพและอัตลักษณ์ของสินค้าไทย ที่กำลังกลายเป็นจุดแข็งบนเวทีโลกในยุคแห่ง Soft Power
อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่ กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution