จีนนำ AI โลกไปถึงไหนแล้ว? เจาะลึกความก้าวหน้าและประโยชน์ที่เปลี่ยนชีวิต!

จากผู้ตามสู่ผู้ท้าชิง: AI จีนก้าวกระโดดแซงหน้าคู่แข่ง!

 

เมื่อพูดถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลายคนอาจนึกถึงซิลิคอนวัลเลย์ในสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่าจีนได้กลายเป็น “ยักษ์ใหญ่” ที่กำลังก้าวขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งผู้นำ AI ของโลกอย่างเต็มตัว ด้วยการสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์จากรัฐบาลและการลงทุนมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศ

 

ความก้าวหน้าของ AI จีนไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องทดลอง แต่ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวันจนน่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน Large Language Models (LLMs) หรือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่เป็นหัวใจของ Generative AI (AI สร้างสรรค์) อย่างเช่น Ernie Bot ของ Baidu ที่ถูกยกให้เป็นคู่แข่งสำคัญของ ChatGPT และมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมหรือบางกรณีก็เหนือกว่าโมเดลจากฝั่งตะวันตก

นอกจากนี้ การพัฒนายังครอบคลุมไปถึงเทคโนโลยีล้ำยุคอื่น ๆ ที่จีนกำลังเป็นผู้นำ:

 

  • ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving): บริษัทอย่าง BYD ร่วมมือกับบริษัท AI ชั้นนำอย่าง DeepSeek เพื่อพัฒนาระบบขับขี่อัจฉริยะ “DiPilot” และ “God’s Eye” ที่จะติดตั้งในรถยนต์ทุกระดับ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์

 

  • เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition): บริษัทชั้นนำอย่าง SenseTime มีความเชี่ยวชาญด้านนี้อย่างมาก ถูกนำไปใช้ในระบบรักษาความปลอดภัย การเงิน และการจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อย่างแพร่หลาย

 

  • อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics): จีนกำลังผลักดันให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง มีการนำหุ่นยนต์ล้ำสมัยมาใช้ทั้งในภาคการผลิต การแพทย์ และบริการ

ประโยชน์ AI จีน: สร้างสรรค์และเปลี่ยนโฉมชีวิตผู้คน

AI ของจีนไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่ยังนำมาซึ่งประโยชน์ที่ “จับต้องได้” ในวงกว้าง โดยมีแรงผลักดันที่สำคัญจาก “ผู้ใช้งานจริง” นับร้อยล้านคน ที่พร้อมจะใช้และเป็นแรงกระตุ้นให้นวัตกรรมเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง:

 

1. ยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน

คนจีนรุ่นใหม่จำนวนมากนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการพักผ่อน แพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์อย่าง Xiaohongshu หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้นำ AI มาช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์ส่วนตัว (Personalized Experience) ทำให้ชีวิตง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

2. ปฏิวัติวงการธุรกิจและการเงิน

AI ได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมภาคธุรกิจและการเงินอย่างสิ้นเชิง เช่น:

  • การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing): AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าอย่างแม่นยำ ทำให้ธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการได้ตรงใจยิ่งขึ้น

 

  • อุตสาหกรรมประกันภัย: บริษัทประกันยักษ์ใหญ่อย่าง Ping An และ Taikang ใช้ AI และแชทบอท (TKer Robot) ในการตอบคำถาม ตรวจสอบกรมธรรม์ และแม้กระทั่งช่วยในการวางแผนทางการเงินเบื้องต้น ทำให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

 

  • การจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart City): Alibaba ใช้เทคโนโลยี AI ในการบริหารจัดการการจราจร ความปลอดภัย และการบริการสาธารณะในเมืองใหญ่ ทำให้เมืองมีความคล่องตัวและน่าอยู่ขึ้นมาก

 

3. การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

การที่จีนให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี ทำให้เกิดการสร้าง “ระบบนิเวศ AI” ที่สมบูรณ์แบบ บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เช่น Tencent, Baidu, Alibaba, Huawei และ SenseTime ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และยังได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและมหาวิทยาลัย ทำให้การวิจัยและพัฒนาเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้จีนกลายเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรม” แห่งใหม่ของโลก

 

กล่าวได้ว่า AI ของจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีที่น่าจับตา แต่คือ “พลังขับเคลื่อน” สำคัญที่กำลังเปลี่ยนโฉมประเทศและกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโลกในหลาย ๆ ด้านอย่างแท้จริง

อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution
#บุกตลาดจีน #ตลาดจีน

Share with your network!
Facebook
Threads
X
LinkedIn