อ.ต.ก. ปักหมุด “เทียนจิน” ดันสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก
ภายใต้โครงการ Thailand Agri Intertrade 2025 ชูทุเรียน มะม่วง มังคุด และนวัตกรรมเกษตรไทยเจาะตลาดจีน
อุตสาหกรรมเกษตรไทยกำลังเคลื่อนตัวอีกครั้งสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ เมื่อองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเกมรุกใหญ่ภายใต้โครงการ “Thailand Agri Intertrade 2025” นำทัพผลไม้ไทยคุณภาพสูง สินค้าเกษตรแปรรูป และนวัตกรรม Smart Farming เข้าร่วมแสดงศักยภาพในงาน China International Agricultural Trade Fair 2025 (CATF 2025) ระหว่างวันที่ 17–19 ตุลาคม 2568 ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน
การเข้าร่วมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การ “ออกบูธ” แบบเดิม ๆ แต่คือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สินค้าเกษตรไทยกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้รายใหญ่ที่สุดของไทย และยังมีความต้องการผลไม้เมืองร้อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผลไม้ไทย” ดาวเด่นตลาดจีน
จากข้อมูลล่าสุด จีนยังคงเป็นปลายทางหลักของผลไม้ไทย โดยครองสัดส่วนกว่า 97% ของผลไม้ส่งออกทั้งหมดของไทย มูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่ง “ทุเรียน” ครองแชมป์อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้สูงสุดคิดเป็นกว่า 97% ของการส่งออกทุเรียนสดทั้งหมด
แต่ความน่าสนใจคือ ผลไม้ไทยชนิดอื่น ๆ ก็เริ่มเบ่งบานในตลาดจีนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น มะม่วงน้ำดอกไม้ มังคุด มะพร้าว ลองกอง ลำไย และส้มโอ รวมถึงผลไม้อบแห้งที่กำลังได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้บริโภควัยรุ่นและกลุ่มคนเมืองจีน ซึ่งเทรนด์ “ของสุขภาพ” และ “ของนำเข้าคุณภาพ” กำลังมาแรง
ตลาดผลไม้แปรรูปของจีนคาดว่าจะมีมูลค่าแตะ กว่า 335,000 ล้านหยวนในปี 2571 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 23% ต่อปี นั่นหมายถึง “ช่องว่างมหาศาล” ที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ได้อีกมาก
อ.ต.ก. ปักหมุด “เทียนจิน” เปิดประตูสู่การค้าใหม่
นาย ปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ระบุว่า การเข้าร่วมงาน CATF 2025 ครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจน คือ “เปิดประตูการค้าใหม่” และเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ผลิตไทยกับผู้ประกอบการจีนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
ภายในงาน อ.ต.ก. นำสินค้าหลากหลายประเภทเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง ข้าวสาร และสินค้าเกษตรแปรรูป พร้อมกิจกรรม Business Matching ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยได้เจรจาธุรกิจโดยตรงกับผู้นำเข้าจากจีน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดสู่การค้าทั้งรูปแบบ B2B (ธุรกิจกับธุรกิจ) และ B2C (ธุรกิจกับผู้บริโภค) อย่างเต็มรูปแบบ
ขับเคลื่อนเกษตรไทยด้วย BCG Model
อ.ต.ก. ยังเน้นย้ำแนวคิดการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนตาม BCG Economy Model (Bio–Circular–Green Economy)
- Bio Economy: นำนวัตกรรมมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์เกษตรนวัตกรรมและอาหารสุขภาพ
- Circular Economy: จัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพ ลดของเสีย เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
- Green Economy: ผลิตอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล
แนวทางนี้ไม่เพียงตอบโจทย์เทรนด์โลกด้านความยั่งยืน แต่ยังทำให้สินค้าเกษตรไทย “มีเรื่องราว” และ “มีคุณค่า” ที่ผู้บริโภคจีนยอมจ่ายเพื่อคุณภาพ
จาก “สินค้าท้องถิ่น” สู่ “แบรนด์ระดับโลก”
ภารกิจของ อ.ต.ก. ในครั้งนี้ จึงไม่ได้มีแค่การขายผลไม้ แต่คือการ “สร้างภาพจำใหม่” ให้สินค้าเกษตรไทยกลายเป็น สินค้ามาตรฐานโลก (World-Class Agri Products) ผ่านการเชื่อมโยงตลาด การพัฒนาแบรนด์ และการยกระดับคุณภาพเกษตรกรไทยให้พร้อมสู่การแข่งขันระหว่างประเทศ
เพราะวันนี้ ตลาดโลกไม่ได้รอใคร และจีนคือสนามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการพิสูจน์ศักยภาพของสินค้าเกษตรไทยในยุคใหม่
“Thailand Agri Intertrade 2025” ไม่ใช่เพียงโครงการส่งออกผลไม้ไทย แต่คือ “ยุทธศาสตร์ใหญ่” ของไทยในการสร้างแบรนด์เกษตรกรรมสู่เวทีโลก ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพและความหลากหลายของผลผลิต บวกกับนวัตกรรมการผลิตที่ยั่งยืน
เมื่อไทยจับมือจีนได้แน่นแฟ้นขึ้น เกษตรกรไทยจะไม่ใช่แค่ผู้ผลิตอีกต่อไป แต่จะเป็น “ผู้สร้างคุณค่า” ให้กับเกษตรไทยทั้งระบบอย่างแท้จร
