จีนรับเสด็จ “ในหลวง-พระราชินีสุทิดา” อย่างสมพระเกียรติ

สัญลักษณ์ความสัมพันธ์ 50 ปี ที่กำลังก้าวสู่ยุคใหม่สำคัญของภูมิภาค

การเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกจับตามอง ไม่ใช่เพียงเพราะพิธีการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ แต่เพราะ “นัยทางภูมิรัฐศาสตร์” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
นี่คือ ครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1975 และจีนเลือกต้อนรับด้วยมาตรฐานสูงสุด—กองทหารเกียรติยศขนาดใหญ่ พรมแดงเต็มพิธีการ และการประกาศย้ำสถานะ “มิตรแท้” ระหว่างสองแผ่นดิน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการเสด็จเยือนของสมเด็จพระราชาธิบดีและพระราชินีแห่งสเปน เผยให้เห็นว่า ปักกิ่งกำลังกระชับสัมพันธ์ระดับสูงกับราชวงศ์ของประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณทางการทูตที่ชัดเจนว่า จีนต้องการส่งภาพลักษณ์ของเสถียรภาพ ความเป็นมิตร และบทบาทนำในเอเชีย
 
 

ไทยยังเป็นพันธมิตรสำคัญของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลายประเทศอาจเป็นคู่ค้า แต่มีไม่กี่ประเทศที่จีนแสดง “ความผูกพันด้านประวัติศาสตร์” ชัดเจนเท่าไทย
สำนักข่าวซินหัวเผยแพร่บทบรรณาธิการย้ำว่า
ไทย–จีนค้าขายและเดินเรือหากันมากว่า 1,000 ปี
ก่อนจักรวรรดิตะวันตกเข้ามาในเอเชีย ไทยส่งออกข้าว เครื่องเทศ และดีบุกให้จีน
ส่วนจีนส่งผ้าไหม ลายคราม และเหล็กกล้ากลับมา—คือความสัมพันธ์บนฐานของ “ความไว้ใจ” มาอย่างยาวนาน
ที่สำคัญ ก่อนจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตเพียงไม่กี่ปี ไทยยังเคยส่งนักกีฬาเทเบิลเทนนิสไปแข่งขันที่จีน และในปี 1974 ปักกิ่งขายน้ำมันราคาถูกให้ไทยเพื่อช่วยเหลือในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้
 

ความสำคัญในยุคปัจจุบัน: จีนไม่ใช่แค่คู่ค้า แต่คือ “เส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจไทย”

ข้อมูลของรอยเตอร์ชี้ว่า จีนวันนี้คือ…
  • นักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับ 1 ของไทย
  • นักลงทุนรายใหญ่ ในหลายอุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์
  • ประเทศที่ไทยนำเข้าสินค้ามากที่สุด มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
นั่นหมายถึง ไทยกับจีนไม่ได้ผูกพันกันแค่ด้านวัฒนธรรมและประชาชน แต่เชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจในระดับโครงสร้าง
เศรษฐกิจไทยเดินคู่กับเศรษฐกิจจีนมากกว่าในอดีตหลายเท่า
 

ความหมายเชิงยุทธศาสตร์

นักวิชาการด้านเอเชีย เช่น ฌูว์ลิแอต โลช จากสถาบัน Inalco ปารีส มองว่า
  • การเสด็จเยือนครั้งนี้คือ “สัญลักษณ์ของการยกระดับความไว้ใจและความใกล้ชิด”
  • จีนต้องการย้ำบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • โดยเฉพาะในช่วงที่อิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเริ่มลดลง
  • ไทยเองต้องการเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเสถียรภาพระยะยาว
นี่คือ ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์
และสะท้อนว่าไทยยังเป็น “จุดยุทธศาสตร์” ที่จีนไม่เคยมองข้าม
 

 

วาระ 50 ปี ไทย จีน: จุดเริ่มต้นของยุคใหม่

การเสด็จเยือนในปีครบรอบ 50 ปีทางการทูต ไม่ใช่เพียงพิธีการ แต่คือสัญญาณถึง
  • การขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
  • การลงทุนที่ลึกขึ้นในอุตสาหกรรมอนาคต
  • การท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งขึ้น
  • และอาจรวมถึงบทบาทด้านความมั่นคงในภูมิภาค
นี่อาจเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของความสัมพันธ์ไทย–จีนในรอบหลายทศวรรษ

 

การเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภาพพิธีต้อนรับที่งดงาม

แต่คือข้อความชัดเจนจากปักกิ่งว่า
ไทยคือพันธมิตรที่จีนให้ความสำคัญทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
และสำหรับไทย นี่คือโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือ
ให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจใหม่ที่จีนยังคงมีบทบาทนำ

อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution
#บุกตลาดจีน #ตลาดจีน

Share with your network!
Facebook
Threads
X
LinkedIn