ไทยเน้นตลาดจีน ขยายโอกาสส่งออก ลดพึ่งสหรัฐ
แม้สหรัฐยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย แต่ล่าสุด ตลาดจีนกำลังกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ของการส่งออกไทยในยุคที่มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ส่งออกไทย
จากข้อมูลช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มูลค่าการส่งออกไทยไปจีนอยู่ที่ 30,667 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคิดเป็นสัดส่วน 12.1% ของมูลค่าการส่งออกไทยทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
เหตุผลไทยเน้นจีน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกไทยต้องมี ความสมดุลระหว่างตลาดเดิมและตลาดใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ และตลาดจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดศักยภาพสูงที่ไทยสามารถขยายส่งออกสินค้าได้
กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดกลยุทธ์ Balance-Inclusive-Diversify โดยเฉพาะในจีนตะวันตก (เฉิงตู ฉงชิ่ง สิบสองปันนา) ซึ่งเป็น ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าของจีน ไทยมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารสัตว์เลี้ยง พร้อมวางแผนเพิ่ม มูลค่าการส่งออกในภูมิภาคนี้กว่า 190 ล้านบาท
Special Task Force บุกตลาดจีน
โครงการ Special Task Force (STF) ของกระทรวงพาณิชย์ ถูกออกแบบมาเพื่อ บุกตลาดศักยภาพใหม่ และสร้างความเชื่อมโยงทางธุรกิจกับผู้ซื้อจีนรายใหญ่ โดยมีการจัด กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยพบกับผู้นำเข้าสินค้าและตัวแทนซื้อในจีนโดยตรง เพิ่มโอกาสคำสั่งซื้อและช่องทางจำหน่ายใหม่
นอกจากจีนตะวันตกแล้ว ตลาดจีนโดยรวม ก็ยังมีศักยภาพสูงสำหรับสินค้าไทยหลายกลุ่ม ได้แก่
- อาหารและเครื่องดื่ม
- สินค้าแม่และเด็ก
- สินค้าแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม
- อาหารสัตว์เลี้ยง
โดยการเจาะตลาดจีนเหล่านี้ ไม่เพียงเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกเท่านั้น แต่ยังเพื่อสร้าง Supply Chain ใหม่และความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาว
การขยายตลาดคู่ขนาน
แม้ว่าจีนจะเป็นตลาดสำคัญ แต่ไทยยังคงเดินหน้า FTA 3 ฉบับ เพื่อสร้างโอกาสส่งออกและกระจายความเสี่ยง
- FTA ไทย – EFTA – เพิ่ม GDP ไทย 0.179%
- FTA ไทย – EU – เพิ่ม GDP ไทย 1.28%
- FTA ไทย – เกาหลีใต้ (CEPA) – เพิ่ม GDP ไทย 0.32–0.44%
FTA เหล่านี้จะช่วยให้ไทยเข้าไปสู่ตลาดยุโรปและเอเชียได้มากขึ้น ลดความพึ่งพาตลาดสหรัฐโดยตรง แต่ ตลาดจีนยังคงเป็นแกนกลางของยุทธศาสตร์ส่งออกระยะสั้นถึงกลาง
ภาครัฐ-เอกชนร่วมมือ สร้างความยั่งยืน
นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ สศช. ชี้ว่า การขยายตลาดจีนเป็น ทางเลือกเชิงกลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงจากสหรัฐ และสร้างความยั่งยืนให้ผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่ต้องการขยายฐานลูกค้า นอกจากนี้ยังมุ่งเน้น การลดต้นทุนการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพ และบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในตลาดจีน
ตลาดจีนกำลังกลายเป็น หัวใจสำคัญของการส่งออกไทย นอกจากช่วยสร้างรายได้และมูลค่าการส่งออกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ การเจาะตลาดจีนตะวันตก การใช้กลยุทธ์ STF และการจับคู่ธุรกิจตรงกับผู้ซื้อจีน ทำให้ไทยมีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมกับการเจรจา FTA กับยุโรปและเกาหลีใต้ เพื่อกระจายตลาดและสร้าง Supply Chain ระดับโลก
