ชาตรามือ เตรียมก้าวสู่ Global Brand! ขยายปีกสู่ต่างประเทศในยุคเศรษฐกิจไทยซบเซา
ชาตรามือ แบรนด์ชาสัญชาติไทยอายุเกือบ 80 ปี จากธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ ในปี 2488 เติบโตสู่การเป็นธุรกิจชาครบวงจร พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็น Global Brand โดยมี “แพรว – พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช” ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นหัวเรือใหญ่ผลักดันการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง
จากแค่ขายชา สู่ร้านเครื่องดื่มเต็มรูปแบบ
จุดเปลี่ยนสำคัญของชาตรามือเริ่มจากการ “ชงให้ชิม” ตามบูธงานแฟร์ต่าง ๆ จนได้รับผลตอบรับดีและพัฒนาเป็นหน้าร้านแบบจริงจัง ปัจจุบันชาตรามือมีสาขาในไทยกว่า 220 สาขา และในต่างประเทศอีก 114 สาขา ใน 11 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน พร้อมส่งออกสินค้าไปกว่า 23 ประเทศ
ลดเป้าโตในประเทศ เน้นขยายต่างประเทศ
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ชาตรามือเติบโตเฉลี่ย 20-30% แต่จากผลกระทบเศรษฐกิจซบเซาและนักท่องเที่ยวลดลง บริษัทจึงปรับเป้าเติบโตลงเหลือ 20% และมุ่งหน้าสู่การเป็น Global Brand มากขึ้น โดยมีรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 30% ของรายได้รวม
ปี 2567 ชาตรามือตั้งเป้าขยายอีก 16 สาขาในต่างประเทศ รวมเป็น 130 สาขา และเจาะ 4 ประเทศใหม่ ได้แก่ แคนาดา ลาว เม็กซิโก และอินโดนีเซีย ส่วนในไทยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 10 สาขา โดยเน้นเมืองรองที่ยังมีโอกาสเติบโต
กลยุทธ์แฟรนไชส์ในต่างประเทศ รักษาคุณภาพในไทย
ในต่างประเทศ ชาตรามือเลือกใช้โมเดลแฟรนไชส์ เพื่อให้โลคอลพาร์ทเนอร์ช่วยสร้างการยอมรับในแต่ละพื้นที่ ขณะที่ในไทยยังไม่มีแผนขายแฟรนไชส์ เนื่องจากมีระบบกระจายวัตถุดิบครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้ว
ขยายฐานผู้บริโภคผ่านการคอลแลปฯ กับแบรนด์ระดับโลก
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการ Collaboration กับแบรนด์ระดับโลก เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เช่น การร่วมมือกับ Pepsi หรือ ซูชิโระ ล่าสุด ชาตรามือเตรียมขยายการคอลแลปฯ ไปสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์
แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ เปิดตัวแอปฯ สะสมแต้ม
นอกจากเครื่องดื่ม ชาตรามือยังแตกไลน์ไปยังสินค้าโฮมยูส เช่น ชา 3in1, ชาหมัก Kombucha รวมถึงเปิดตัวชาไทยไร้สี และชาไทยจากสีธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กังวลเรื่องสีผสมอาหาร
อีกแผนสำคัญคือการเปิดตัวแอปพลิเคชันชาตรามือ ที่สามารถสะสมแต้มและสั่งเครื่องดื่มล่วงหน้า เพื่อลดปัญหาคิวยาวหน้าร้าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน pain point สำคัญที่แบรนด์ต้องเร่งแก้ไข
ยังครองตลาดชาไทย แม้ต้องเจอคู่แข่งจากจีน
แม้จะมีคู่แข่งจากแบรนด์ชาต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น แต่ชาตรามือยังมั่นใจว่าแบรนด์มีจุดแข็งจาก “เอกลักษณ์” และ “คุณภาพ” ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยยังครองส่วนแบ่งตลาดชากว่า 70% ในประเทศ
เป้าหมายใหญ่: รายได้แตะ 5,000 ล้านบาทในปี 2570
แม้ปีนี้จะลดเป้าหมายการเติบโตลง แต่เป้าระยะยาวของชาตรามือคือการผลักดันรายได้ให้แตะ 5,000 ล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมปักธงความเป็น Global Brand อย่างมั่นคงในตลาดโลก
อยากปรึกษาเรื่องเจาะตลาดจีนด้วยการโฆษณาออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าคนจีนต้อง Baidu Search Engine #1 ของคนจีนที่มีผู้ใช้มากกว่า 1,700 ล้านคน ปรึกษาได้ที่ กดคลิ๊กที่นี่ → We Bridge Marketing Solution
